โรคอะไรบ้างนะที่ประกันสุขภาพปฏิเสธ

คนส่วนใหญ่คงพอจะเข้าใจกันแล้วว่า ประกันสุขภาพ สามารถจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาได้ แต่จะมีซักกี่คนล่ะที่รู้ว่าประกันสุขภาพเขาก็ไม่ได้คุ้มครองทุกการเจ็บป่วยของเรานะ ถึงแม้ว่าประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้ารักษาพยาบาลด้วยโรคต่าง ๆ หรืออุบัติเหตุ รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ ในโรงพยาบาล แต่ก็มีข้อยกเว้นที่ต้องรู้คือ หากตรวจพบโรคร้ายหลังจากที่ทำประกันสุขภาพ ก็ไม่สามารถให้การที่คุ้มครองได้ ดังนั้นเพื่อให้เพื่อนๆ วางแผนการซื้อประกันสุขภาพได้อย่างคุ้มค่า เราไปดูกันว่ามีอะไรที่ไม่คุ้มครองบ้าง

โรคที่ประกันสุขภาพปฏิเสธ

เจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย

ในกรณีที่เจ็บป่วยเพียงเล็กน้อก อาทิ ปวดหัว หรือมีไข้ไม่สบายและรีบไปโรงพยาบาลจะได้มีสถานะเป็นผู้ป่วยใน โดยมีจุดประสงค์ต้องการเคลม ซึ่งตามหลักแล้วถือเป็นการรักษาที่เกินความจำเป็น และถ้าหากไม่มีความเห็นจากแพทย์ว่าให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ทำให้เคลมเป็นไปได้ยาก

มีอาการเจ็บป่วยในช่วงเวลาที่ไม่คุ้มครอง

ประกันสุขภาพมีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยมาก่อน ซึ่งถึงแม้จะเป็นโรคที่อยู่ในเงื่อนไขประกัน แต่หากเป็นในระยะเวลาที่เกิดขึ้นภายในช่วงที่กำหนดนับจากวันที่ทำสัญญา ก็ไม่สามารถเรียกเคลมได้

ประกันสุขภาพ

เจ็บป่วยจากโรคที่ประกันไม่คุ้มครอง

ในกรณีที่เจ็บป่วยโรคร้ายแรง และต้องนอนพักเพื่อทำการรักษาที่โรงพยาบาล หากเป็นโรคที่ประกันสุขภาพไม่รองรับ ก็ไม่สามารถคุ้มครองได้ รวมถึงหากตรวจพบโรคร้ายก่อนทำประกันสุขภาพ ซึ่งอยู่ในระยะที่ลุกลามเช่นกัน สำหรับโรคร้ายที่ประกันสุขภาพไม่ให้การคุ้มครอง มีดังนี้

  • โรคที่ตรวบพบก่อนการทำประกันสุขภาพ รวมถึงโรคเรื้อรัง และมีภาวะโรคแทรกซ้อน
  • มีความบกพร่องมาตั้งแต่กำเนิด หรือโรคทางพันธุกรรม
  • โรคที่เกิดจากการแปลงเพศ
  • การเข้านอนพักรักษาตัวใจโรงพยาบาลโดยไม่มีอาการเจ็บป่วยที่ชัดเจน หรือรุนแรง
  • การตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาโรค
  • การรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของวัย
  • การรักษาที่เกิดจากความเครียด
  • การติดสุราเรื้อรัง และสารเสพติดทุกชนิด
  • การเข้ารับการรักษาโดยที่ไม่ใช่คำสั่งจากแพทย์
  • การรักษาในระยะทดลอง
  • การรักษากับแพทย์ทางเลือก อาทิ การฝังเข็ม หรือนวดกดจุด
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยกเว้นโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
  • การรักษาภายในช่องฟัน
  • การตรวจสายตา
  • การตรวจรักษาจากการได้ยิน
  • อุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนไหว อาทิ ไม้เท้า หรือ รถเข็น
  • การผ่าตัดอวัยวะ
  • ค่าบริการที่เรียกเก็บล่วงหน้า

โรคที่ยกเว้นการคุ้มครองที่อยู่ในเงื่อนไขเวลา มีดังนี้

  • โรคมะเร็งทุกชนิด รวมถึงเนื้องอก
  • โรคริดสีดวงทวาร
  • โรคไส้เลื่อนทุกชนิดที่ไม่เป็นแต่กำเนิด
  • โรคต้อกระจก ต้มลม หรือโรคต้อเนื้อ
  • โรคอดีนอยด์ หรือการตัดทอนซิล
  • โรคนิ่ว
  • โรคยั่วบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่

โรคนอนไม่หลับ

โรคนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้ทุกวัย ทุกอายุ เกิดขึ้นได้บ่อยตามข้อมูลการศึกษาพบได้ถึง ร้อยละ30-35 ของผู้ใหญ่ พบภาวะดังกล่าวได้บ่อยในวัยผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยที่มีปัญหาเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ ผู้ป่วยจะมีปัญหานอนไม่หลับทั้งๆที่มีโอกาสเพียงพอสำหรับการนอน ผลของการนอนไม่หลับทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, จิตใจเกิดความกังวลหรือมีผลต่อการคิดการตัดสินใจและการทำงานในช่วงกลางวัน

การนอนไม่หลับ เป็นภาวะที่บั่นทอนสุขภาพของคนเราและส่งผลกระทบทั้งการเรียน การทำงาน รวมถึงคุณภาพชีวิต การนอนไม่หลับเกิดจากหลายสาเหตุ หลายคนนอกจากประสบปัญหาการนอนไม่หลับแล้ว ยังมีอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับอันเนื่องมาจากการอุดกั้นอีกด้วย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ปัจจุบันความผิดปกติจากการนอนหลับ เช่น อาการนอนกรน นอนไม่หลับ หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติขณะนอนหลับ พบมากขึ้นเรื่อย ๆ และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อค้นหาโรคซ่อนเร้น

ตัวอย่างเช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ที่อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองอุดตันหรือหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

นอนไม่หลับ

โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ

  1. Initial insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับภาวะดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล
  2. Maintinance insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาวมีการตื่นกลางดึกบ่อยภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
  3. Terminal insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่นอาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า

อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะนอนไม่หลับ

  • อ่อนเพลีย
  • ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงาน, ความจำเปลี่ยนแปลง
  • ความสามารถในการทำงานลดลง
  • อารมณ์หงุดหงิดกระสับกระส่าย
  • ง่วงนอนเวลากลางวัน
  • ขาดพลังในการใช้ชีวิตอ่อนเพลีย
  • การเกิดอุบัติเหตุ
  • กังวลเกี่ยวกับปัญหาการนอนที่เกิดขึ้น