สถิติ 5 โรคร้ายของคนไทย

หลายคนในช่วงที่ Work From Home คงเคยใช้บริการสั่งอาหารมาส่งถึงที่บ้านกันบ้าง และจะบ่นกับตัวเองว่า ทำไมน้ำหนักเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ แถมยังไม่ค่อยอยากไปออกกำลังกาย นอกบ้าน เนื่องจากค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงขึ้นอีก 

การดูแลสุขภาพทำได้น้อยลงในยุคนี้ จากสถิติ 5 โรคร้ายของคนไทย คือ 


  1. โรคมะเร็ง ซึ่งเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน 
  2. โรคหลอดเลือดหัวใจ มาจากพฤติกรรมการกินอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย 
  3. โรคปอดเรื้อรัง สาเหตุเกิดจากการสูบบุหรี่ 
  4. โรคความดันโลหิตสูง 
  5. โรคเบาหวาน 

การทำประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงอาจจะเป็นทางออกสำหรับการปกป้องสุขภาพ แล้วประกันเหล่านี้จะช่วยอะไรได้บ้าง และซื้อประกันโรคร้ายแรง ที่ไหนดี เรามาดูกัน

การพิจารณาเลือกซื้อประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง 


1. เลือกวงเงินคุ้มครองให้เหมาะสม
เมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง นอกจากจะต้องได้รับการรักษาให้ทันท่วงทีแล้ว ยังจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาให้หายขาด รวมถึงจะต้องติดตามอาการเป็นระยะด้วย คุณจึงควรพิจารณาแผนประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ให้วงเงินเหมาะสม หรืออยู่ที่ราวๆ 1 - 3 ล้านบาท ที่สำคัญจะต้องคุ้มครองในทุกระยะของโรค


2. เลือกแผนประกันที่ครอบคลุมค่าห้องพัก
นอกจากค่ารักษาพยาบาลแล้ว อีกสิ่งที่ทุกคนมักจะเป็นกังวลคือค่าห้องพักระหว่างการรักษาตัว คุณจึงต้องพิจารณาเลือกแผนประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุม ทั้งค่าห้องพัก และ ค่าชดเชยต่างๆ ตามความเหมาะสม


3. ไม่ปฏิเสธการต่ออายุ
เพราะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ในช่วงอายุไหน และหากเป็นแล้วจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่ คุณควรเลือกแผนประกันที่ไม่ปฏิเสธการต่ออายุในกรณีที่คุณต้องการทำประกันต่อหลังจากที่เคยเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง


ประกันโรคร้ายแรง ที่ไหนดี

ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง myFlexi CI ดูแลคุ้มครองโรคร้ายทุกระยะ

ประกันโรคร้ายแรง จาก Tune Protect มีงบหลักพัน ก็มีประกันโรคร้ายแรงคุ้มครองทุกระยะหลักล้านได้ เพราะโรคร้ายแรงมีมากกว่าที่คิด! ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงจาก Tune Protect พร้อมดูแลคุ้มครองโรคร้ายทุกระยะ และเลือกความคุ้มครองโรคร้ายเพิ่มเติมได้ตามต้องการ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 18-60 ปี ต่ออายุได้ถึง 65 ปี ลดหย่อนภาษีได้ พร้อมบริการความเห็นที่สองทางการแพทย์และบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์

ทำไมต้องซื้อ ประกันคุ้มครองโรคร้าย myFlexi CI 

  • พร้อมดูแลคุ้มครองโรคร้ายทุกระยะ 
  • เลือกความคุ้มครองโรคร้ายเพิ่มเติมได้ตามต้องการ 
  • รับมือสบายใจกับค่าใช้จ่ายก้อนโตในการรักษา

จุดเด่นของประกันโรคร้ายแรง myFlexi CI มีอะไรบ้าง? 

  • คุ้มครองโรคร้ายทุกระยะ สูงสุดถึง 3,000,000 บาท* 
  • เลือกปรับเพิ่ม-ลด ความคุ้มครองได้ 
  • คุ้มครอง 5 กลุ่มโรคร้ายแรง ถึงอายุ 65 ปี 
  • มีค่าชดเชยรายวัน และพยาบาลพิเศษ 
  • เบี้ยเริ่มต้นเพียงไม่ถึง 2 บาทต่อวัน 
  • ตอบคำถามสุขภาพแค่ 3 ข้อ ไม่ต้องไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล 
  • สมัครได้เลย โดยไม่ต้องซื้อประกันชีวิต - เบี้ยประกันนำไปลดหย่อนภาษีได้* 
  • มีบริการความเห็นที่สองทางการแพทย์ และปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (ปรึกษาแพทย์ออนไลน์มีเฉพาะแผน4)

ประกันภัยอุบัติเหตุ

ประกันภัยอุบัติเหตุ คืออะไร ?

ประกันอุบัติเหตุ หรือที่หลายคนเรียกว่า ประกัน PA คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองกับผู้เอาประกันภัย ในกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บจากร่างกาย หรือความเสียหายจากการประสบอุบัติเหตุเท่านั้น โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครอง เช่น เงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาล หรือในบางแผนอาจจะมีค่าชดเชยรายวันในกรณีที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย นอกจากอุบัติเหตุทั่วไปแล้ว ในบางแผนก็จะมีการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติม อย่างเช่น อุบัติเหตุจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์, ค่าใช้จ่ายทันตกรรมที่เกิดจากอุบัติเหตุ, การถูกฆาตกรรมหรือถูกทำร้าย ร่างกาย หรือเงินช่วยเหลือพิเศษ


ประกันอุบัติเหตุ



ประกันภัยอุบัติเหตุจะชดเชยเงินให้ในกรณีไหนบ้าง?

  • จ่ายเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
  • จ่ายเงินชดเชยสูญเสียอวัยวะ สายตา จากอุบัติเหตุ
  • จ่ายเงินชดเชยเมื่อทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ
  • จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุให้ผู้เอาประกัน
  • จ่ายเงินเมื่อกระดูกแตกหัก ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และการบาดเจ็บอวัยวะภายในจากอุบัติเหตุ
  • จ่ายเงินเมื่อเกิดเหตุในระหว่างเป็นผู้โดยสารของระบบขนส่งสาธารณะ หรือเกิดอุบัติเหตุภายในอาคาร หรือสถานที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นของราชการหรือเอกชน

นอกจากนี้ประกันภัยอุบัติเหตุยังสามารถขยายความคุ้มครองได้อีกหลายกรณี

  • การขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์
  • ค่าใช้จ่ายทันตกรรมที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การรักษาฟันที่ได้เกิดขึ้นภายหลัง 7 วันนับจากวันเกิดอุบัติเหตุ
  • การถูกฆาตกรรมหรือถูกทำร้าย ร่างกาย
  • เงินช่วยเหลือพิเศษ
**เงื่อนไขการรับประกันขึ้นอยู่กับแผนกรมธรรม์ ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกัน**

โรคอะไรบ้างนะที่ประกันสุขภาพปฏิเสธ

คนส่วนใหญ่คงพอจะเข้าใจกันแล้วว่า ประกันสุขภาพ สามารถจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาได้ แต่จะมีซักกี่คนล่ะที่รู้ว่าประกันสุขภาพเขาก็ไม่ได้คุ้มครองทุกการเจ็บป่วยของเรานะ ถึงแม้ว่าประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้ารักษาพยาบาลด้วยโรคต่าง ๆ หรืออุบัติเหตุ รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ ในโรงพยาบาล แต่ก็มีข้อยกเว้นที่ต้องรู้คือ หากตรวจพบโรคร้ายหลังจากที่ทำประกันสุขภาพ ก็ไม่สามารถให้การที่คุ้มครองได้ ดังนั้นเพื่อให้เพื่อนๆ วางแผนการซื้อประกันสุขภาพได้อย่างคุ้มค่า เราไปดูกันว่ามีอะไรที่ไม่คุ้มครองบ้าง

โรคที่ประกันสุขภาพปฏิเสธ

เจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย

ในกรณีที่เจ็บป่วยเพียงเล็กน้อก อาทิ ปวดหัว หรือมีไข้ไม่สบายและรีบไปโรงพยาบาลจะได้มีสถานะเป็นผู้ป่วยใน โดยมีจุดประสงค์ต้องการเคลม ซึ่งตามหลักแล้วถือเป็นการรักษาที่เกินความจำเป็น และถ้าหากไม่มีความเห็นจากแพทย์ว่าให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ทำให้เคลมเป็นไปได้ยาก

มีอาการเจ็บป่วยในช่วงเวลาที่ไม่คุ้มครอง

ประกันสุขภาพมีระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยมาก่อน ซึ่งถึงแม้จะเป็นโรคที่อยู่ในเงื่อนไขประกัน แต่หากเป็นในระยะเวลาที่เกิดขึ้นภายในช่วงที่กำหนดนับจากวันที่ทำสัญญา ก็ไม่สามารถเรียกเคลมได้

ประกันสุขภาพ

เจ็บป่วยจากโรคที่ประกันไม่คุ้มครอง

ในกรณีที่เจ็บป่วยโรคร้ายแรง และต้องนอนพักเพื่อทำการรักษาที่โรงพยาบาล หากเป็นโรคที่ประกันสุขภาพไม่รองรับ ก็ไม่สามารถคุ้มครองได้ รวมถึงหากตรวจพบโรคร้ายก่อนทำประกันสุขภาพ ซึ่งอยู่ในระยะที่ลุกลามเช่นกัน สำหรับโรคร้ายที่ประกันสุขภาพไม่ให้การคุ้มครอง มีดังนี้

  • โรคที่ตรวบพบก่อนการทำประกันสุขภาพ รวมถึงโรคเรื้อรัง และมีภาวะโรคแทรกซ้อน
  • มีความบกพร่องมาตั้งแต่กำเนิด หรือโรคทางพันธุกรรม
  • โรคที่เกิดจากการแปลงเพศ
  • การเข้านอนพักรักษาตัวใจโรงพยาบาลโดยไม่มีอาการเจ็บป่วยที่ชัดเจน หรือรุนแรง
  • การตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาโรค
  • การรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของวัย
  • การรักษาที่เกิดจากความเครียด
  • การติดสุราเรื้อรัง และสารเสพติดทุกชนิด
  • การเข้ารับการรักษาโดยที่ไม่ใช่คำสั่งจากแพทย์
  • การรักษาในระยะทดลอง
  • การรักษากับแพทย์ทางเลือก อาทิ การฝังเข็ม หรือนวดกดจุด
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยกเว้นโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
  • การรักษาภายในช่องฟัน
  • การตรวจสายตา
  • การตรวจรักษาจากการได้ยิน
  • อุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนไหว อาทิ ไม้เท้า หรือ รถเข็น
  • การผ่าตัดอวัยวะ
  • ค่าบริการที่เรียกเก็บล่วงหน้า

โรคที่ยกเว้นการคุ้มครองที่อยู่ในเงื่อนไขเวลา มีดังนี้

  • โรคมะเร็งทุกชนิด รวมถึงเนื้องอก
  • โรคริดสีดวงทวาร
  • โรคไส้เลื่อนทุกชนิดที่ไม่เป็นแต่กำเนิด
  • โรคต้อกระจก ต้มลม หรือโรคต้อเนื้อ
  • โรคอดีนอยด์ หรือการตัดทอนซิล
  • โรคนิ่ว
  • โรคยั่วบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่

โรคนอนไม่หลับ

โรคนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้ทุกวัย ทุกอายุ เกิดขึ้นได้บ่อยตามข้อมูลการศึกษาพบได้ถึง ร้อยละ30-35 ของผู้ใหญ่ พบภาวะดังกล่าวได้บ่อยในวัยผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยที่มีปัญหาเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ ผู้ป่วยจะมีปัญหานอนไม่หลับทั้งๆที่มีโอกาสเพียงพอสำหรับการนอน ผลของการนอนไม่หลับทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, จิตใจเกิดความกังวลหรือมีผลต่อการคิดการตัดสินใจและการทำงานในช่วงกลางวัน

การนอนไม่หลับ เป็นภาวะที่บั่นทอนสุขภาพของคนเราและส่งผลกระทบทั้งการเรียน การทำงาน รวมถึงคุณภาพชีวิต การนอนไม่หลับเกิดจากหลายสาเหตุ หลายคนนอกจากประสบปัญหาการนอนไม่หลับแล้ว ยังมีอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับอันเนื่องมาจากการอุดกั้นอีกด้วย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ปัจจุบันความผิดปกติจากการนอนหลับ เช่น อาการนอนกรน นอนไม่หลับ หรือการเคลื่อนไหวผิดปกติขณะนอนหลับ พบมากขึ้นเรื่อย ๆ และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อค้นหาโรคซ่อนเร้น

ตัวอย่างเช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ที่อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองอุดตันหรือหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

นอนไม่หลับ

โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ

  1. Initial insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับภาวะดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล
  2. Maintinance insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาวมีการตื่นกลางดึกบ่อยภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
  3. Terminal insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่นอาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า

อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะนอนไม่หลับ

  • อ่อนเพลีย
  • ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงาน, ความจำเปลี่ยนแปลง
  • ความสามารถในการทำงานลดลง
  • อารมณ์หงุดหงิดกระสับกระส่าย
  • ง่วงนอนเวลากลางวัน
  • ขาดพลังในการใช้ชีวิตอ่อนเพลีย
  • การเกิดอุบัติเหตุ
  • กังวลเกี่ยวกับปัญหาการนอนที่เกิดขึ้น

lotus-defenseface-treatment-oil

Face oils ออยล์บำรุงผิวหน้า ดูแลผิวเข้มข้นขั้นสุด

เมื่อพูดถึงสกินแคร์ประเภทที่อุดมไปด้วยสารสกัดสำคัญหลากหลายชนิดก็คงจะหนีไม่พ้น “ออยล์บำรุงผิว” หลาย ๆ คนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันนี้มีหลายแบรนด์ยกให้ออยล์เป็นส่วนผสมหลักที่สำคัญ ที่ดัง ๆ ก็มักจะเป็น Argan Oil, Coconut Oil, Rose Hip Oil และออยล์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย


หลายคนอาจจะหลีกเลี่ยง Face Oil หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ด้วยความคิดที่ว่าน้ำมันจะยิ่งทำให้อุดตัน หรือยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น “น้ำมันก็คือผลผลิตทางธรรมชาติที่อ่อนโยนกว่าผลิตภัณฑ์แอนตี้เอจจิ้ง เพราะว่ามันช่วยผลักคุณค่าต่างๆ ลงในผิวได้ล้ำลึก โดยไม่ทำร้ายพื้นผิวของใบหน้า” David Colbert แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์กกล่าว “และยังทำให้ผิวดูโกลว์มีออร่าตลอดทั้งวันอีกด้วย


LOTUS DEFENSE™ Face Treatment Oil ออยล์บำรุงผิวหน้าเพื่อมอบความชุ่มชิ้นอย่างล้ำลึก อย่างมีประสิทธิภาพ

ออยล์บำรุงผิวหน้า มอบความชุ่มชิ้นอย่างล้ำลึก น้ำมันบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ และออร์แกนิค 100% ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งมาก ช่วบบำรุงผิวให้แข็งแรง เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย และสว่างกระจ่างใส


face oil


คุณสมบัติพิเศษ LOTUS DEFENSE™ Face Treatment Oil ออยล์บำรุงผิวหน้า

คืนความกระจ่างใส เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิวด้วยสารสกัดจากไวท์ ลูพิน สารสกัดจากดอกบัวหลวง และสารสกัดแดนดิไลออน ที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อผิวกระจ่างใส เพื่อผิวเปล่งปลั่ง น้ำมันออร์แกนิคบำรุงผิว 5 ชนิด Organic Olive, Organic Jojoba, Marula, Borage และ Rice Bran ช่วยเพิ่มความโกลว์และพร้อมบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม และเปล่งปลั่ง