ประกันรถยนต์ชั้น 3 และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง

สำหรับรถยนต์ที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป คงต้องมองหาประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือไม่ก็ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่นี้เรามาดูกันว่า ประกันรถยนต์ชั้น 3 กับ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นแตกต่างกันอย่างไร และคุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินคู่กรณี และ ชีวิตร่างกายอนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ

ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง


รถชน (มีคู่กรณี) คู่กรณี คือ ยานพาหนะทางบก รถที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิง มอเตอร์ ไฟฟ้า (ยานพาหนะที่จดทะเบียนกรมการขนส่งทางบก) เช่น รถยนต์ทุกประเภท รถมอเตอร์ไซด์


ประกันรถยนต์ชั้น 3+


ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองเฉพาะรถชนกับรถ / เคลมสดรถชนรถ : ดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ เนื่องจากอุบัติเหตุที่มีการเฉี่ยว ชน หรือ พลิกคว่ำ กับยานพาหนะทางบกเท่านั้น (รถที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก เช่น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์) และ ชีวิตร่างกายอนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง


รถชน (มีคู่กรณี) คู่กรณี คือ ยานพาหนะทางบก รถที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิง มอเตอร์ ไฟฟ้า (ยานพาหนะที่จดทะเบียนกรมการขนส่งทางบก) เช่น รถยนต์ทุกประเภท รถมอเตอร์ไซด์

ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ก็ไม่ต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 3 ธรรมดาคือจะไม่คุ้มครองในส่วนที่รถคันเอาประกันนั้น ไฟไหม้ น้ำท่วม รถคว่ำ รถหาย รถชนหมา ชนกำแพง เป็นต้น พูดง่ายๆ คุ้มครองในกรณี รถชนรถเท่านั้น อะไรที่ไม่ใช่รถยนต์ หรือไม่มีเครื่องรถยนต์ ไม่คุ้มครอง
รมต.สธ เผยพร้อมออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยนภาพคำเตือนและขยายขนาดภาพคำเตือนพิมพ์บนซองบุหรี่ ทั้ง 2 ด้าน เพิ่มจากเดิมร้อยละ 55 เป็นร้อยละ 85 ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเร็ววันนี้ หวัง 10 ภาพคำเตือน จะสื่อความหมายพิษภัยบุหรี่ชัดเจนตรงไปตรงมาช่วยกระตุ้นให้คนไทยลดสูบบุหรี่น้อยลง

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย 20 องค์กร และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้เดินทางมาให้กำลังใจ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการขยายภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ ฉบับใหม่ พ.ศ. 2556



นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรค อยู่ระหว่างทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข คือ การเปลี่ยนภาพคำเตือน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นผลกระทบต่อสุขภาพ และขยายขนาดภาพคำเตือนให้ใหญ่กว่าเดิมที่ใช้พื้นที่ไม่เกินร้อยละ 55 เพิ่มเป็นร้อยละ 85 ของพื้นที่ส่วนใหญ่ของซองบุหรี่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก สื่อความหมายชัดเจน ตรงไปตรงมาทั้ง 10 ภาพ ประกอบด้วย โปรดงดสูบบุหรี่ในบ้าน ควันบุหรี่ฆ่าเด็กได้ สูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งกล่องเสียง สูบบุหรี่ทำให้หัวใจวาย สูบบุหรี่ทำให้เส้นเลือดสมองแตก สูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งปาก สูบบุหรี่ทำให้เซ็กซ์เสื่อม สูบแล้วปากเหม็นบุหรี่ สูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งปอด และสูบแล้วทรมานจนตายจากถุงลมพอง โดยต้องพิมพ์เป็นภาพ 4 สี ทั้ง 2 ด้าน

“การขยายขนาดภาพคำเตือน ทำให้ประเทศไทยสามารถลดการสูบบุหรี่ได้มากขึ้น ต้องขอบคุณทุกเครือข่าย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีความตื่นตัว มีความสำนึกต่อสังคม นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ช่วยให้ภาครัฐสามารถแก้ปัญหาไปได้มาก โดยจะเร่งออกประกาศภายในเร็ววันนี้ นับเป็นก้าวแรก ของการดำเนินการตามกลยุทธ์ในการลดจำนวนคนสูบบุหรี่ให้น้อยลง เนื่องจากเป็นสื่อที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าการสูบบุหรี่ มีผลต่อสุขภาพจริง และทำถูกต้องตามกฎหมายต่างๆ ที่มีข้อตกลงระหว่างประเทศภาคี จะไม่มีการพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะจะทำให้ไม่สามารถเจรจากันได้ การออกประกาศฉบับนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อการค้า” นพ.ประดิษฐกล่าว

ทั้งนี้ ขอให้สื่อมวลชนช่วยกันลดการเผยแพร่ข่าวเรื่องบุหรี่ให้น้อยลง การแก้ปัญหาสูบบุหรี่ ต้องแก้ที่เยาวชนก่อน ที่ผ่านมาเราได้รณรงค์เรื่องบุหรี่มาเป็นอันมาก แต่แนวโน้มเราพบว่าเด็กเริ่มสูบบุหรี่เร็วขึ้น และผู้หญิงสูบมากขึ้น เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่ง แสดงว่าอิทธิพลของการโฆษณาให้สูบบุหรี่ยังมีมาก เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนต้องช่วยกันกระตุ้นให้เยาวชนมีจิตสำนึกในเรื่องนี้มากขึ้น